Agoda

Booking.com

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

มาอ่านนิทานอีสป 2 ภาษากันเถอะ !! แสนสนุก และสร้างสมาธิให้กับเด็กด้วยค่ะ



อ่านนิทานอีสป 2 ภาษากันเถอะ !!

 นิทานอีสปหลายเรื่องหลายเล่ม

นิทานมีประโยชน์มากกว่าความสนุก


คุณพ่อ คุณแม่คงจะทราบดีว่าในหลายๆ ครั้งกระบวนการเรียนรู้ของเด็กนั้นอาจเกิดขึ้นนอกห้องเรียน บ่อยครั้งที่เด็กๆ นั้นได้รับการปูพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ที่โรงเรียนจากการทำกิจกรรมที่บ้าน แต่เนื่องด้วยภารกิจของคุณพ่อคุณแม่ปัจจุบันไม่ค่อยเอื้ออำนวย จึงอาจทำให้ไม่ค่อยมีเวลาได้ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับลูก แต่มั้งนี้ยังมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่พอจะแบ่งเวลาให้กับลูกได้นั่นคือ กิจกรรมการเล่านิทานก่อนนอน ซึ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำร่วมกับลูกได้แล้ว ยังสามารถปูพื้นฐานที่ดีสำหรับการเรียนรู้ให้แก่ลูกน้อยได้อีกด้วย เราลองมาดูกันดีกว่าว่าอะไรคือสิ่งที่เด็กจะได้รับจากการฟังนิทาน
 พื้นฐานสมอง
จากการวิจัยเรื่องสมองทำให้นักวิจัยเชื่อมั่นว่า การเล่านิทานช่วยให้เด็กพัฒนากระบวนการคิด การเชื่อมโยงเรื่องราว และการจัดระบบเรื่องราว ซึ่งเป็นการเพิ่มกระบวนการทำงานของสมอง ผู้เชี่ยวชาญทางสมองมนุษย์ยังยืนยันจากผลการค้นคว้าว่าการเล่าเรื่องราวต่างๆ นั้นมีความสำคัญ โดยมีรายงานทางประสาทวิทยาที่ค้นพบว่าเซลล์สมองจะเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูล เพื่อทำการเก็บข้อมูลและดึงเอาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ถ้าทฤษฎีนี้ถูกต้อง แสดงว่าเรื่องราวต่างๆ ที่คุณสอนลูกไปจะถูกเก็บเอาไว้ในฐานข้อมูล เด็กจะจำว่าเค้าได้รับการสอนอะไรบ้าง และสามารถเปิดเอาข้อมูลจากลิ้นชักต่างๆ มาใช้ได้ตามแต่สถานการณ์

ความจำ

เรื่องราวต่างๆ ช่วยในด้านความจำของเด็ก เนื่องจากการเล่าเรื่องนั้นจะทำให้ข้อมูลต่างๆ ดูน่าจดจำมากขึ้น นิทานสามารถสอดแทรกข้อมูลหรือเกร็ดความรู้เข้าไปในตัวละครและบทบาทสมมติต่างๆ เด็กจะมีอารมณ์คล้อยตามไปกับนิทาน ซึ่งเป็นการกระตุ้นความสนใจและทำให้เด็กจำได้ง่ายขึ้น

การอ่านและเขียน

การเล่านิทานสอนให้เด็กฟังอย่างตั้งใจและคิดวิเคราะห์กับเรื่องราวที่กำลังเล่าให้เค้าฟัง นอกจากนี้ยังพัฒนาคำศัพท์ ความเข้าใจ เพิ่มสมาธิ และเปิดมุมมองและโลกทางจินตนาการของเด็กให้กว้างขึ้นอีกด้วย การฟังเป็นพื้นฐานของพัฒนาการทางภาษา เด็กจะเรียนรู้ที่จะพูดจากการฟัง สำหรับการอ่านนั้นเริ่มได้โดยมีพื้นฐานคำศัพท์ และการเขียนก็จะต้องมีพื้นฐานมาจากการอ่าน ดังนั้นรากฐานของการอ่านและเขียนจึงเกิดจากการฟัง ในขณะที่คุณเล่านิทานให้เด็กฟัง คุณพ่อคุณแม่เองกำลังปูพื้นฐานที่สำคัญให้แก่ลูกน้อย เมื่อเด็กเริ่มที่จะฟังนิทาน เด็กๆ เองจะเริ่มแต่งเรื่องขึ้นมาเอง และต่อไปก็เริ่มที่จะเขียนหรือถ่ายทอดจินตนาการออกมาโดยอัตโนมัติ
การแก้ปัญหา
จินตนาการและมุมมองนั้นมีความจำเป็นต่อการอ่านออกเขียนได้ เนื่องจากทักษะเหล่านี้จะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจ ถึงความหมายของคำศัพท์ที่เพิ่มมากขึ้นบนหน้าหนังสือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จินตนาการและมุมมองอันกว้างไกลของเด็กๆ เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะในแต่ละวันเด็กสามารถแก้ปัญหาได้ การเล่านิทานเป็นการปลูกฝังทักษะต่างๆ ซึ่งในขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นเด็กๆ ให้เข้าไปค้นหาโลกแห่งจินตนาการในหนังสือ
การเล่านิทานจึงเป็นหนทางที่ดีทางหนึ่งที่เด็กจะได้ค้นพบคุณค่าของตัวเอง ผ่านการเล่าเรื่องเหตุการณ์และผลลัพธ์ต่อการกระทำหรือสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งเหตุการณ์ที่ถูกต้องและเหตุการณ์ที่ผิด ตรงนี้เองเด็กๆ จะได้เรียนรู้ผ่านจินตนาการ

การสื่อสาร

การเล่านิทานจะช่วยเพิ่มพูนทักษะทางการสื่อสาร เด็กๆ จะเรียนรู้การแสดงออกด้านสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงผ่านการเล่าเรื่อง การฝึกให้เด็กเล่าเรื่องจะช่วยพัฒนาทักษะการพูด และส่งเสริมความมั่นใจให้แก่เด็ก



ซึ่งปัจจุบัน หนังสือนิทานก็มีหลากหลายประเภท อาทิ หนังสือปกแข็ง หนังสือเพลง หนังสือผ้า หรือมาในรูปแบบสื่ออื่นๆ เป็นต้น
ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์แก่เด็กๆทั้งสิ้นหากเลือกใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา และเหมาะสมกับช่วงวัย
โดยปกติแล้ว เด็กเล็ก เหมาะสมที่จะอ่านนิทานผ้า มากกว่า เพราะจะมีวัสดุที่ทำจากผ้า สามารถซักได้ เมื่อเด็กเกิดนำเข้าปาก วัยต่อมา ก็จะชอบเสียงเพลงและลูกเล่นที่เพิ่มมากขึ้น เราอาจเลือกหนังสือที่มีเสียงเพลงประกอบด้วยเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน เมื่อถึงวัยเข้าเรียนก็จะได้ใช้หนังสือปกแข็ง ได้โดยไม่เกิดอันตราย

การเลือกหนังสือให้ลูก ไม่จำเป็นว่าจะต้องให้ลูกจดจ่อกับการอ่านและดูอย่างเดียว คุณพ่อคุณแม่สามารถสอดแทรกความรู้ที่ได้จากหนังสือ ในรูปแบบ สถานการณ์ที่ต่างๆกันไป เช่น ในห้องน้ำขณะอาบน้ำก็สามารถสอนลูกในขณะที่อาบน้ำไปได้ ด้วยหนังสือโฟม หรือก่อนเข้านอนด้วยหมอนนิทานที่อ่านไปแล้วหลับตามไปได้เลย เป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น